Cloud services

Cloud ที่คุณเชื่อมั่น และสัมผัสได้ Trust &
Touch องค์กรของคุณไม่นำข้อมูลขึ้นระบบ Cloud วันนี้ แล้วจะรอวันไหน

เตรียมรับมือกับเหตุไม่คาดฝัน ให้ผู้เชี่ยวชาญตัวจริงด้าน Cloud จาก Netizen.Cloud ดูแลองค์กรคุณ
เทคโนโลยีกำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว การเกิดขึ้นของสถานการณ์ที่ไม่ สามารถคาดเดาทั้งในอดีต ปัจจุบันและอนาคต
ทำให้รูปแบบการดำเนิน ธุรกิจเปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
การทำงานได้ทุกที่ทุกเวลาบน ทุกอุปกรณ์ จึงเป็นโจทย์สำคัญที่ทำให้ทุกองค์กรต้องเลือกใช้ Netizen.Cloud
คลาวด์สำหรับระบบ SAP ERP ที่คุณเชื่อมั่นและสัมผัสได้

ดาวน์โหลด
Catalog

Disaster recovery หรือเรียกสั้นๆว่า DR หมายถึง การกู้คืนข้อมูลเมื่อเกิดภัยพิบัติ โดยทั่วไปเเล้วถ้า
องค์กรไหนต้องการมี DR ก็ต้องลงทุน Hardware, เเละ Software รองรับไว้ที่ site
สำรองเพื่อทำงานทดเเทนในกรณีที่ไม่สามารถทำงานที่ site หลักได้ ซึ่งฟังดูเหมือนง่าย
เเต่เเท้จริงเเล้วมีความซับซ้อนในการสร้างมากๆ ปัจจุบันเราทุกคนอยู่ในยุค always-on
หรือยุคที่พร้อมใช้งานในการเชื่อมต่อโลก Internet โดยไม่สามารถรอการใช้งานเมื่อเกิด Downtime ได้
ซึ่งลองคิดดู ถ้าทุกท่านไม่สามารถใช้ Social Media หรือ Chat
ได้เพียงเเค่ครึ่งชั่วโมง เราจะรู้สึกอย่างไรกัน ? ภาระอันหนักอึ้งสำหรับ IT ในทุกๆ องค์กร
คือการทำอย่างไรให้ Application เเละ Data มีความพร้อมใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง โดยปราศจากสิ่งที่ไม่คาดหวัง
เช่น Server พัง, Software มี bug , Data
Overload, หรือเกิดภัยพิบัติต่างๆ ซึ่งทุกสิ่งที่กล่าวมาองค์กรไม่สามารถรอได้ เเละต้องหา Solution
เพื่อมาป้องกันโดยการทำ Fault Tolerant ให้กับระบบ ซึ่งส่วนที่สำคัญที่สุดในการป้องกันก็คือ การทำ DR site
นั่นเอง มาถึงยุค Disaster recovery
as a services (DRaaS) เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา Service Provider ได้เปลี่ยนเเปลงวงการอุตสาหกรรมด้าน IT
โดยสร้าง Cloud Services เพื่อลดความซับซ้อนเเละการลงทุนทางด้าน Hardware ไม่ว่าจะเป็น SaaS, PaaS, เเละ
IaaS ซึ่ง DRaaS ก็เช่นกันที่ได้รับผลพลอยได้ตามนั้นด้วย
ซึ่งทำให้ง่ายที่หลายองค์กรจะเข้าถึงโซลูชัน DR ได้มากขึ้น

เหมาะสำหรับกลุ่มองค์กรที่มี Data Center อยู่แล้ว แต่ต้องการลดความเสี่ยงของ ระบบ Production โดยการทำ DR
Site เพิ่มเติม แต่ไม่มี Data Center แห่งที่ 2 และมีงบจำกัด

  องค์กรที่มี
DR Site อยู่แล้ว แต่ต้องจ่ายค่า MA เครื่องทุกปี แม้ไม่เคยเกิดเหตุต้องใช้งาน

องค์กรมีแผนสำหรับการทำ Project Migration หรือ Upgrade ในอนาคต แต่ Hardware MA ยังไม่หมด

Hybrid Cloud for Non-Production System

การ Development และ Quantity Assurance สำหรับระบบ ERP และอื่นๆ

Hybrid Cloud for Non-Production System เป็นตัวเลือกที่ได้รับความสนใจอย่างมาก สำหรับลูกค้าที่ใช้งานระบบ
ERP หรือ Core Business Software อยู่แล้ว แต่ประสบปัญหาเรื่อง Hardware MA ที่มีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อยๆ
ตามจำนวนอายุของ Hardware และ Resource ในด้านการ Development
และ Quantity Assurance ไม่ได้ถูกใช้งานอย่างคุ้มค่า รวมไปถึงค่าดูแลรักษาระบบต่างๆ Data Center
ที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งในกลุ่มลูกค้าส่วนนี้ มีแผนจะลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ และความยุ่งยากในการดูแลรักษาลง
แต่เพื่อให้กระทบกับ Business Operation ให้น้อยที่สุด
จึงเลือกทำการ Migration ระบบบางส่วนที่อยู่ในส่วนของ Dev & Test ขึ้นไปยัง Cloud Architecture แทน

เหมาะสำหรับกลุ่มองค์กรที่มี Data Center อยู่แล้ว แต่ต้องการลดขนาดของ Datacenter ร่วมทั้งค่า MA ลง
ระบบขององค์กรมีปัญหาน้อย และไม่ได้มีการพัฒนา Software อยู่เป็นประจำ

องค์กรมีแผนสำหรับการทำ Project Migration หรือ Upgrade ในอนาคต แต่ Hardware MA ยังไม่หมด

องค์กรต้องการนำระบบ หรือ Technology ใหม่ๆเข้ามาทดสอบใช้งานในองค์กร
แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะตอบโจทย์ธุรกิจได้มีประสิทธิภาพอย่างไร

  องค์กรต้องการ
Upgrade System แต่อยากทดสอบใช้งาน Feature ใหม่ๆก่อนที่จะดำเนินการจริง และไม่อยากให้เกิดผลกระทบต่อ System
Landscape ปัจจุบัน

Full System Landscape on Netizen.Cloud เป็นตัวเลือกแรกๆ
ที่ถูกเลือกใช้จากกลุ่มองค์กรที่กำลังวางแผนลงทุนกับระบบ ERP และระบบ Core Business ทั้งในแง่ของ
Flexibility ในการปรับเพิ่ม หรือลด Resource ให้เหมาะกับการใช้งานที่เกิดขึ้นจริง และลดค่าใช้จ่ายของ
การลงทุนระบบในครั้งแรกให้กับหลายๆองค์กรเป็นจำนวนมาก
ซึ่งเป็นจุดเด่นที่สำคัญของระบบ Cloud Solution ในปัจจุบัน

เหมาะสำหรับองค์กรที่มีแผนจะลงทุนด้าน IT Infrastructure สำหรับระบบ ERP การเลือกใช้ Solution
นี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการลงทุนระบบ ERP บนคลาวด์ ไปได้เป็นจำนวนมาก

  ระยะเวลาในการ
Implement Project สั้นลงภายใน 1-2 เดือนเนื่องจากไม่ต้องเสียเวลาในการรอทั้งในส่วนของการจัดส่ง Hardware
และ Hardware Implement

ไม่จำเป็นต้องซื้อ Hardware Resource เผื่อล่วงหน้า 3-5 ปี และตัดค่าใช้จ่ายส่วนที่ไม่จำเป็นออกไปได้มาก

สามารถวางแผนงบประมาณได้ง่ายขึ้น และค่าใช้จ่ายในส่วนของ System Resource ของ Cloud มีแนวโน้มถูกลงเรื่อยๆ