19 มีนาคม 2023 เนทติเซนท์ (Netizen) ได้จัดงานร่วมกับ เอสเอพี ไทยแลนด์ (SAP Thailand) กับงาน GROW with SAP Innovation Day ภายใต้การนำเสนอ Adopt Cloud ERP and Grow without Limits เพื่อผลักดันการใช้งาน Cloud ERP ซึ่งเป็นการส่งเสริมระบบการทำงานแบบใหม่ ที่จะสามารถช่วยเปลี่ยนแปลงการทำงานของธุรกิจในยุค Digital ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

งานในครั้งนี้จัดขึ้นที่ ณ เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ (The St. Regis Bangkok) โดยมีผู้เข้าร่วมจากกลุ่มธุรกิจที่หลากหลายที่มีความสนใจในเรื่องของ Digital Transformation กว่า 90 ท่าน

ภายในงาน GROW with SAP Innovation Day ได้มีการนำเสนอเรื่องของเทคโนโลยีที่หลากหลาย โดยมีการเปิดตัวด้วย Generative AI Video โดยคุณ Kulwipa Piyawatthanametha, Managing Director of SAP Indochina พร้อมด้วย James Wong, Head of SAP S/4HANA Public Cloud, SAP Southeast Asia ที่ได้มาบรรยายถึงเรื่อง Digitizing for Sustainable Growth and Innovation กับการใช้เทคโนโลยีด้านดิจิตัลเพื่อสร้างการเติบโตแบบยั่งยืน โดยเน้นการนำ Digital Technology มาใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานให้มีประสิทธิภาพ และ เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ

GROW with SAP คืออะไร?

GROW with SAP คือ Business Package ที่ SAP สร้างขึ้นเพื่อช่วยให้ธุรกิจได้ใช้ประโยชน์จาก Cloud ERP ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นไปที่เรื่องของความเร็ว ความยืดหยุ่น ความเสถียรของข้อมูลบนระบบ นวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความสามารถในการรองรับการเติบโตของธุรกิจ

โดย GROW with SAP จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึง Knowledge Database ของทาง SAP ที่ผ่านการรวบรวบข้อมูลจากประสบการ์ณในการพัฒนาระบบมากกว่า 50 ปี โดย SAP ได้รวบรวมข้อมูลนี้เพื่อทำมาจัดทำเป็น Best Practice เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถนำมาใช้ได้ง่ายผ่าน GROW with SAP และนอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถเข้าถึง Innovation Technology ต่างๆ เช่น Artificial Intelligence หรือ AI และ Automation Features ที่ช่วยแสดงผลลัพธ์การทำงานได้อย่างรวดเร็วและใช้วัดผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Symposium : Innovation Technology มีส่วนในการทำงานร่วมกับ SAP ERP ได้อย่างไร

และเพื่อนำเสนอข้อมูล Innovation Technology ที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถ Grow with SAP ได้อย่างรอบด้าน ภายในงานครั้งนี้ ยังมีแขกรับเชิญจากหลายภาคส่วนเพื่อมาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้าน Technology with SAP ในช่วง Symposium ดังนี้

Transform to the Intelligent and Sustainable Enterprise with GROW with SAP โดยคุณ Ankur Dey ที่มาพูดคุยเรื่องการรับมือกับการwfhเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจในยุคปัจจุบัน และการใช้ Digital Technology ของ SAP เพื่อกระตุ้นการเติบโตและยั่งยืนในองค์กร โดยเน้นไปที่การใช้ AI และ Big DATA Analytics รวมถึงการทำงานแบบใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นแนวคิดที่สำคัญในปัจจุบันในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ

Leveraging Innovation for Finance Transformation โดยคุณ Arjaree Tassanamethin, Senior Solution Advisor กับการใช้นวัตกรรมเพื่อการเปลี่ยนแปลงทางด้านการเงิน ที่นำเอา Technology มาปรับปรุงการทำงานเพื่อช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทางด้านการเงิน

Platform and Automation Strategy to Scale and Sustain โดยคุณ Sirinop Raktaetrakul, Strategy SEA Pre-Sale Advisor, SAP Indonesia วิธีการเพิ่มประสิทธิภาพในการขยายธุรกิจและรักษาความยั่งยืนให้กับองค์กรในระยะยาว โดยการสร้าง Platform และ ทำกระบวนการทำงานให้เป็น Automation เพื่อลดความซ้ำซ้อนในการทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่าย

และอีกหนึ่งหัวข้อสำคัญที่เป็นไฮไลท์ของงานนี้ก็คือ Unlocking the Value of Cloud Transformation to help Business GROW Beyond Boundaries

โดยคุณ Sawitree Suwannasang, Investment Promotion Officer, Professional Level, Investment Services Center, Board of Investment (BOI) ได้ขึ้นเวทีเพื่อให้มุมมองในเรื่องของการลงทุนของทาง บีโอไอ (BOI) ที่ได้ให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมในด้าน AI และ ระบบ Automation ที่จะนำองค์กรไปสู่ Industry 4.0 สรุปได้ว่า

“มาตรการการลงทุนของ บีโอไอ (BOI) ในด้าน AI และ ระบบ Automation มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมให้สามารถนำ Technology Digital เข้ามาใช้งานและพัฒนาองค์กรให้เติบโตได้ในยุค Industry 4.0 โดยมีการสนับสนุนเงินลงทุนในการนำ Technology Digital มายกระดับการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตหรือการบริการให้กับกลุ่มอุตสาหกรรม ใน 3 ส่วนคือ

1. เงินลงทุนหรือค่าใช้จ่ายในการใช้ซอฟต์แวร์ โปรแกรม หรือ ระบบสารสนเทศ มาใช้ในการเชื่อมโยงข้อมูลภายในองค์กร (Integration) และ เชื่อมโยงข้อมูลภายนอกองค์กรบางส่วน (Connected) หรือ มีการเชื่อมโยงทั้งภายในและภายนอก โดยต้องมีการเชื่อมโยงข้อมูลอย่างน้อย 3 ฟังก์ชั่น
2. การประยุกต์ใช้ Artificial Intelligence หรือ AI / Machine Learning / การนำ Big Data มาใช้หรือวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics)
3. การนำซอฟต์แวร์ โปรแกรม หรือ ระบบสารสนเทศ มาใช้ในการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างระบบของบริษัทกับระบบออนไลน์ของภาครัฐ

โดยมาตรการทั้งหมดนี้มีเป้าหมายที่จะสร้างสภาพแวดล้อมให้กับอุตสาหกรรม โดยเป็นการช่วยให้ผู้ลงทุนมีความพร้อมต่อการนำเทคโนโลยี AI และ ระบบ Automation เข้าสู่การใช้งานในอุตสาหกรรม 4.0 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

นอกจากนั้นภายในงาน คุณ Seree Satukijchai, Chief Executive Officer (CEO) ประธานบริหาร บริษัท เนทติเซนท์ จำกัด (Netizen) ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของระบบ SAP และการนำ Technology Digital เข้ามาใช้ในการทำงาน ยังได้เล่าถึงแนวโน้มของตลาดในปัจจุบันกับสิ่งที่ธุรกิจต้องเตรียมตัวก่อนที่จะทำเรื่อง Digital Transformation ไว้ว่า

“ในช่วงหลังหลายปีที่ผ่านมา Business Model ของแต่ละธุรกิจเปลี่ยนไปจากเดิมเยอะมาก ทั้งเรื่องของการมองหา Technology ที่สามารถตอบสนองการทำงานของธุรกิจที่มีการเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว เช่น Cloud Ready, AI การหา Business Model ใหม่ๆ รวมถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรที่พร้อมนำเอา Technology เข้ามาแทนที่การทำงานของคน และ ยิ่งธุรกิจไหนปรับตัวให้สอดรับกับเทคโนโลยีได้ไวเท่าไหร่ ก็เหมือนยิ่งติด Speed ให้กับองค์กรเติบโตได้ไวเท่านั้น”

พร้อมทั้งในงาน คุณ Peerapat Ekpoothorn, General Manager กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมดพลาส จำกัด (Medplast) อุตสาหกรรมผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเทปกาวทางการแพทย์ ได้ออกมาเล่าถึงประสบการณ์ในการทำ Digital Transformation ให้กับองค์กรในครั้งนี้ว่า

“บริษัท เมดพลาส เราเติบโตขึ้นมาจากการผลิตเทปกาวเพื่ออุตสาหกรรมเป็นหลัก แต่เมื่อ 2 ปีที่แล้ว หลังจากช่วง Covid-19 ที่ผ่านมา บริษัทมีการเติบโตขึ้นจากเดิมเยอะมาก ซึ่งปกติการดำเนินงานจะเป็นในรูปแบบครอบครัวมาโดยตลอด ทุกอย่างถูกจดบันทึกลงบนกระดาษและ Excel เป็นหลัก แต่เมื่อธุรกิจมีการขยายมากขึ้นจึงทำให้การทำงานแบบเดิมไม่สามารถตอบโจทย์ธุรกิจได้อีกต่อไป

ในตอนแรกคิดว่าการทำ Transform องค์กรไปสู่ Digital จะเป็นเรื่องยาก แต่พอช่วง Covid-19 เข้ามาทำให้เราต้องเร่งปรับตัว และ ได้เข้ามาปรึกษากับ เนทติเซนท์ (Netizen) ทำให้วางใจในเรื่องของการนำ Technology มาปรับใช้กับองค์กรมากขึ้น พร้อมกับมีโปรแกรมการส่งเสริมจาก บีโอไอ (BOI) ทำให้ตัดสินใจในการทำ Digital Transformation ให้กับองค์กร ณ ตอนนั้น”

อีกทั้ง เมดพลาส (Medplast) ในฐานะที่เป็น First Project Success in Thailand and Southeast Asia ลูกค้ารายแรกในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้นำระบบ SAP S/4HANA Public Cloud Edition Version Netizen Peony มาใช้งาน ยังได้กล่าวเพิ่มเติมถึงการนำระบบ SAP มาใช้กับการทำงานไว้ว่า

“หลังจากที่ เนทติเซนท์ ได้แนะนำให้รู้จักกับ SAP S/4HANA Public Cloud Edition ก็ทำให้ตัดปัญหาในส่วนการ Transform การทำงานไปสู่ Digital จากเดิมที่เคยเป็นกังวล เพราะระบบมีความพร้อมในการใช้งาน โดยมี Best Practice ให้ และ องค์กรเพียงแค่ปรับการทำงานให้เข้าสู่ระบบ ทำให้การทำงานทุกอย่างมีระบบ และ สามารถตรอบสอบได้

โดยปัจจุบัน การทำงานของ Medplast ทางผู้บริหารสามารถ Track สินค้าเพื่อตรวจสอบสต็อคสินค้าได้ ลดการ Error ของข้อมูลได้มากขึ้น อีกทั้ง ระบบยังมาช่วยควบคุมในเรื่อง Security และ ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ตอบโจทย์การทำงานของธุรกิจ”

และคุณ Seree Satukijchai ยังได้กล่าวเสริมถึงตัวระบบ SAP S/4HANA Public Cloud Edition Version Netizen Peony ไว้อีกว่า

“ระบบ SAP Cloud ERP เป็นระบบ ERP ที่มาพร้อม Process ที่เป็นมาตรฐาน โดยมีการรันบน Cloud เพื่อตอบสนองการเติบโตของธุรกิจ ลดการทำ Customization เพื่อให้สามารถนำเอา Technology ที่มีการ Upgrade อย่างต่อเนื่องมาสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจ พร้อมเปิดระบบให้สามารถเชื่อมต่อกับระบบภายนอก สร้าง Eco-System ในการทำ Integration ได้ง่ายขึ้น โดยใช้การวาง Approach ที่นำเอาส่วนสำคัญของ Core ERP คือ Best Practice Process มาช่วยวางระบบ และ สามารถตอบคำถามได้ว่าระบบของบริษัท มีความแตกต่างจากมาตรฐานเท่าไหร่ และ มีความสามารถในการปรับตัวได้มากน้อยแค่ไหน”

การ Transform ธุรกิจด้วย SAP S/4HANA Public Cloud Edition Version Netizen Peony มีข้อดีอย่างไร

• Improved Performance : SAP S/4HANA มาพร้อมกับ User Interface ที่ใช้งานง่าย ด้วย SAP Fiori แบบใหม่ที่สามารถปรับแต่งได้ตามผู้ใช้ สามารถเสนอข้อมูลเชิงลึกได้ชัดเจนและมองเห็นภาพรวมได้ง่ายกว่าที่เคย
• Enhanced collaboration : ลดความซับซ้อนของกระกวนการการทำงาน โดยปรับโครงสร้างการทำงานให้เป็นแบบศูนย์รวมมากขึ้น ทำให้การทำงานระหว่างแผนกมีประสิทธิภาพ โดยผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลและ Application ต่างๆ ได้ในพื้นที่เดียวกัน อีกทั้ง งานต่างๆ ยังจัดการได้ง่ายขึ้นด้วยความสามารถของระบบที่สามารถทำงานได้แบบอัตโนมัติ
• Increased Agility : เพิ่มความคล่องตัวให้กับการทำงานได้มากขึ้น ด้วย Business Suite ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงข้อมูลได้จากทั่วทุกมุมโลก อีกทั้ง แพลตฟอร์มที่สามารถรองรับกับเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างอัจฉริยะ เช่น Artificial Intelligence หรือ AI, Machine Learning, IoT หรือ กระบวนการอัตโนมัติของหุ่นยนต์ (iRPA) ที่เป็นประสทธิให้บริษัทมีความพร้อมต่อการเติบโตในอนาคต
• Better Decision-Making : ด้วยการทำงานบน SAP HANA ที่เป็นฐานข้อมูลแบบ In-Memory Database หรือ ฐานข้อมูลในหน่วยความจำ ที่สามารถประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลได้แบบ Real-Time ทำให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงยังสามารถวิเคราะห์ Big Data ที่สามารถใช้สนับสนุนการวางแผนภายในองค์กร ข้อมูลที่ช่วยตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ
• Thai Localization : โซลูชั่นการทำงานที่ เนทติเซนท์ (Netizen) ได้ออกแบบและทำ Localization สำหรับระบบ SAP ERP ให้เหมาะกับรูปแบบการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยโดยเฉพาะ เช่น ระบบการจัดการทางภาษีที่เชื่อมโยงทุกการจ่ายภาษี และ แบบฟอร์มสำหรับภาษีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกรมสรรพากร

สำหรับธุรกิจใดที่กำลังมองหาที่ปรึกษาที่จะช่วยผลักดันธุรกิจให้ก้าวสู่ Digital Transformation เนทติเซนท์ (Netizen) พร้อมให้คำปรึกษาการทำงานให้กับทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ด้วย Business Scenario กว่า 300 ราย การันตีด้วยรางวัลผู้นำในด้าน Global Standard Support Package ในการปรับตัวเข้าสู่ SAP Products Cloud ได้รวดเร็ว พร้อมกับ Business Technology Transformation หรือ BTX โซลูชั่นการทำงานต่างๆ ที่พร้อมช่วยสนับสนุนธุรกิจลูกค้าให้สำเร็จ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม SAP S/4HANA, Public Cloud Edition Version Netizen Peony :

• ติดต่อเนทติเซนท์ (ฝ่ายขาย): +662 090 6868
• อีเมล์: sales@netizen.co.th
• เว็บไซต์: netizen.co.th
• LINE: @netizen