จุดเด่นอย่างหนึ่งใน NETIZEN PEONY คือเรามีโซลูชั่นบริหารจัดการด้านการเงินที่มีประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ตั้งแต่ระดับผู้บริหารจนถึงผู้ใช้ปลายทางได้เป็นอย่างดี           ในวันนี้เราจะเริ่มจากการพูดถึงว่า Simple Finance คืออะไร ก่อนอื่นเลยมันไม่ใช่แค่โซลูชั่นเดียวและไม่ใช่โซลูชั่นใหม่ทั้งหมด เราได้นำโซลูชั่นการเงินทั้งหมดของเรากลับมาใช้โดยเริ่มต้นจากการวางแผนและการวิเคราะห์ จนถึงการบริหารความเสี่ยงและการปฏิบัติตามกฎระเบียบขององค์กร และแน่นอนว่ารวมทั้งการบัญชีด้วย โดยเรายึดหลักการสำคัญสามประการ หลักการแรกคือการใช้งานหรือการคำนวณในหน่วยความจำภายในในรูปแบบของฐานข้อมูล HANA ของเราเพื่อให้เรียกใช้ข้อมูลเชิงลึกได้ทันที หลักการที่สองซึ่งสำคัญเท่าเทียมกันคือประสบการณ์ของผู้ใช้ สร้างประสบการณ์การใช้งานที่ง่ายขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของตัวเลขและเครื่องมือการวิเคราะห์ตลอดจนสามารถใช้งานได้บนอุปกรณ์ใดก็ตามไม่ว่าจะเป็นพีซี แล็ปท็อป สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต หลักการสุดท้ายคือการช่วยให้ลูกค้าของเราใช้สิ่งนี้ในรูปแบบที่ยืดหยุ่นและไม่ติดขัดนั่นเอง โดยเราได้นำเสนอตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับลูกค้าไม่ว่าพวกเขาจะต้องการที่จะใช้แบบ On-premise, Cloud หรือแม้กระทั่งแบบ Hybrid           เพราะข้อมูลเชิงลึกที่เรียกใช้ได้ทันทีนั้นไม่ใช่แค่รายงานที่รวดเร็วแต่ต้องมีประสิทธิภาพมากกว่านั้น อย่างที่ทราบดีว่าเราใช้ฐานข้อมูลหน่วยความจำภายในบน HANA platform อย่างแรกคือทำให้เราสามารถสร้างแหล่งข้อมูลจริงเพียงแหล่งเดียวได้ โดยการรวบรวมสารสนเทศที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาอยู่ในแพลตฟอร์มเดียวกันจากนั้นให้โซลูชั่นต่าง ๆ เข้าถึงข้อมูลชุดเดียวกันและทำงานบนฐานข้อมูลเดียวกัน ถัดมาคือสามารถใช้การประมวลผลและวิเคราะห์แบบ Real-time ได้ช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ สุดท้ายคือสิ่งที่ทุกคนต่างต้องการคือความสามารถในการมองไปยังอนาคต การวางแผนที่ดีขึ้น สามารถบูรณาการได้มากขึ้น เช่น การคาดการณ์ที่ออกมาโดยตรงจากระบบหรือระบบสร้างขึ้นมาหรือเครื่องมือการจำลองที่ฝังอยู่ในข้อมูล          …

          แนวคิดดั้งเดิมของ ERP คือ ฟอร์มอิเลคทรอนิกส์ที่ใช้เก็บข้อมูล รายการ และเอกสารทั้งหมดที่เกิดขึ้นในองค์กร เป็นระบบสำหรับบันทึกที่ช่วยให้ระบบการทำธุรกรรมมีประสิทธิภาพมากขึ้น หากคุณมองด้านซ้ายของรูปคุณจะเห็นโมดูลต่าง ๆ ของโลจิสติกส์ใน ERP ทั่วไป เช่น การขายและการจัดจำหน่าย การจัดการวัตถุดิบ การวางแผนและการควบคุม เป็นต้น ซึ่งเมื่อมองจากมุมมองผู้ที่วางแผนการผลิตที่ใช้ระบบเดิมนั้นจะใช้ระบบเหล่านี้เพื่อระบุปัญหาในงานประจำวัน แต่เขาจะต้องใช้ความฉลาดของตนเองในการวิเคราะห์ในระบบต่าง ๆ เพื่อที่จะจัดลำดับความสำคัญของคำสั่งผลิต หรือเพื่อเตรียมจัดซื้อจากผู้ค้ารายอื่นหรือเตรียมสั่งจากโรงงานอื่นเพื่อป้องกันการขาดแคลน แต่ด้วย Simple Logistics ใน NETIZEN PEONY ที่ช่วยเพิ่มคุณค่าและความสามารถในการทำงานอย่างชาญฉลาดจะช่วยให้ผู้วางแผนการผลิตสามารถตัดสินใจและให้ความสำคัญกับงานประจำวันได้แทนที่จะต้องวิเคราะห์รายการต่าง ๆ เพื่อหาวิธีแก้ปัญหา นี่จึงเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงจากระบบการบันทึกย้ายไปสู่ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ เมื่อมองไปยังด้านขวาคุณจะเห็นขอบเขตทั้งหมดของ Simple Logistics ซึ่งรองรับเทรนด์ใหม่ ๆ เช่น อุตสาหกรรม 4.0 และ IoT เพื่อพัฒนาไปสู่ Smart Factory…

          อย่างที่เคยได้กล่าวไปว่า NETIZEN  PEONY นั้นสร้างบนแพลตฟอร์มหน่วยความจำภายในที่ทันสมัยที่สุด ซึ่งได้รับการออกแบบมาให้ยกระดับความสามารถอย่างเต็มที่ ในรูปนี้นั้นคือความสามารถที่ NETIZEN PEONY ช่วยสนับสนุนองค์กรของคุณ โดยสามารถจัดกลุ่มได้ 3 แบบ คือ เพิ่มประสิทธิภาพ ด้วยการออกแบบกระบวนการทางธุรกิจใหม่จากแบบผลักสู่แบบดึง เพิ่มประสิทธิผล ด้วย simulation engine และสนับสนุนการตัดสินใจแบบฉับพลัน เพิ่มความคล่องตัว ทำให้องค์กรสามารถส่งมอบไอเดียดี ๆ ออกสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็วและมีคุณภาพ           เรามาดูที่กลุ่มแรกซึ่งเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพด้วยการออกแบบกระบวนการทางธุรกิจใหม่จากแบบผลักสู่แบบดึง ได้แก่ การเร่งกระบวนการ ซึ่งใช้ประโยชน์จากความเร็วในการประมวลผลที่เพิ่มขึ้นช่วยเร่งกระบวนการจากเป็นชั่วโมงหรือเป็นวันให้เหลือเพียงไม่กี่วินาทีหรือนาที ขั้นตอนกระบวนการอัตโนมัติ ซึ่งช่วยลดเปอร์เซ็นต์ของ zero-touch order โดยการลดการป้อนข้อมูลหรือการป้อนข้อมูลซ้ำ เช่น รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าโดยตรงผ่านการคีย์ผ่านร้านค้าบนเว็บโดยทำการเชื่อมกับ ERP เพื่อตัดสินใจอัตโนมัติทันที การส่งออกงานไปยังภายนอก เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงานย่อยต่าง ๆ           กลุ่มถัดมาเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิผล ด้วย simulation engine และสนับสนุนการตัดสินใจแบบฉับพลัน…

                    NETIZEN PEONY นำเสนอคุณสมบัติใหม่ ๆ เพื่อให้คุณได้ตระหนักถึงนวัตกรรมและกระบวนการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นเพราะเราอยู่ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลที่จำเป็นต้องปรับตัวอย่างรวดเร็ว เราจะเริ่มต้นกันด้วยตัวอย่าง 4 เรื่องหลัก ๆ เรื่องแรกคือ ความเร็ว เพราะความเร็วเป็นสิ่งสำคัญ โดยตอนนี้ความเร็วของ transaction เพิ่มขึ้นถึง 10 เท่าจากเดิม และวิเคราะห์ได้เร็วขึ้นถึง 1,000 เท่า ซึ่งช่วยยกระดับการประมวลผล และสามารถใช้กระบวนการใหม่ ๆ เช่น what-if simulation หรืออัลกอริทึมชั้นสูงที่ฝังเข้ากับข้อมูลแบบ real-time            เรื่องที่สองคือ ใช้งานง่าย ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้ปลายทาง เนื่องจากทุกคนนั้นมีความเคยชินกับการใช้งานอุปกรณ์จำพวกโทรศัพท์มือถือหรือแท็บแล็ตอยู่แล้ว เราจึงได้เลิกใช้หน้าจอการทำงานแบบเดิมและมอบประสบการณ์ใหม่ผ่านทาง SAP Fiori ช่วยให้คุณสามารถกำหนดค่าได้เหมือนกับแอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์ หรือใช้ช่อง Search ได้เหมือนช่องค้นหาของ google ตลอดจนสามารถทำงานร่วมกับเครือข่ายสังคมออนไลน์ได้ …

                    ในวันนี้เราจะพูดถึง การกำหนดค่าที่แนะนำและการออนบอร์ด แต่ก่อนอื่นเราอยากจะกล่าวถึงสาเหตุหลักที่เราลงทุนค่อนข้างมากในเรื่องนี้ อย่างแรกคือเราต้องการลดระยะเวลาเพื่อเพิ่มคุณค่าทั้งหมดตั้งแต่ในวงจรการวางระบบ ควบคู่ไปกับการลดต้นทุนโดยรวมในการเป็นเจ้าของ ตลอดจนการลดความพยายามและเวลาในการเปลี่ยนแปลงนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องด้วย NETIZEN PEONY นี่เอง           ด้านล่างนั้นคุณจะเห็นขั้นตอนสำคัญในการวางระบบ NETIZEN PEONY  เริ่มต้นที่ Discovery Phase ซึ่งเป็นส่วนที่เราตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณจะสามารถเข้าถึงการกำหนดค่าข้อมูลตัวอย่างได้อย่างง่ายดาย เพื่อสัมผัสประสบการณ์ในการใช้งานกับ Fiori และฟีเจอร์ต่างๆที่เรานำเสนอเพียงแค่ไม่กี่คลิก ถัดไปจะเป็น Prepare Phase ซึ่งจะนำคุณสู่ Business scenarios ที่หลากหลาย และดูว่าตรงกับความต้องการของคุณหรือไม่ และต้องปรับแต่งอะไรบ้างเพื่อให้เข้ากับธุรกิจของคุณ ซึ่งเราเรียกว่า Fit-Gap analysis ถัดมาเป็นขั้นตอน Realize Phase ซึ่งเราได้มอบเครื่องมือในการกำหนดค่าเพิ่มเติมด้วยตนเองให้ ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนสิ่งที่นอกเหนือจากที่ได้กำหนดค่าไว้ตั้งแต่แรกได้ รวมทั้งเครื่องมือและบริการสำหรับการย้ายข้อมูลและการบูรณาการที่จำเป็นตลอดขั้นตอนนี้ ตามมาด้วยขั้นตอน Deploy phase ซึ่งโซลูชั่นจะได้รับการตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ในสภาพแวดล้อมจริงของบริษัทลูกค้า ตามการกำหนดค่าใหม่และการอัปโหลดข้อมูลหลักและข้อมูลธุรกรรม และได้ถ่ายโอนความรู้ทั้งหมดที่ต้องรู้ลงในแอปพลิเคชันโดยตรง และเมื่อเราพร้อม Go-live ก็จะมาถึงขั้นตอนสุดท้าย…